Need Help? Talk to an Expert

Email : sales@mui-robotics.com
QR code

นวัตกรรม “Electronic Nose” เทคโนโลยีเปลี่ยนเกมอุตสาหกรรมอาหารไทย

นวัตกรรม Electronic Nose เทคโนโลยีเปลี่ยนเกมอุตสาหกรรมอาหารไทย
สารบัญ

“จมูกอิเล็กทรอนิกส์” เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาที่เคยเป็นข้อจำกัดของมนุษย์ในการตรวจจับและวิเคราะห์กลิ่น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารที่ความแม่นยำในการตรวจสอบคุณภาพถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยสำหรับในประเทศไทยแม้ว่าสิ่งนี้อาจจะยังไม่ถูกเป็นที่รู้จักในวงกว้างแต่ก็นับว่าเริ่มมีบทบาทสำคัญไม่น้อยทีเดียว

โดยวันนี้เราจะมาดูบทบาทกันดีกว่าว่าจริง ๆ แล้วเทคโนโลยีเหล่านี้ได้สร้างคุณค่าอะไรไว้บ้าง และเราจะใช้มันอย่างไรเพื่อให้ธุรกิจของไทยสามารถยกระดับไปได้อีกขั้น

การใช้งาน Electronic Nose ในอุตสาหกรรมอาหาร

การใช้งาน Electronic Nose ในอุตสาหกรรมอาหาร

การใช้งานเทคโนโลยี Electronic Nose ในอุตสาหกรรมอาหารได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการยกระดับกระบวนการผลิตและตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ได้อย่างมากมาย เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยในการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ในแต่ละขั้นตอน แต่ยังช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์กลิ่น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค

โดยทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหิดลภายใต้การนำของ ผศ.ดร.ธีรเกียรติ์ เกิดเจริญ ได้ทุ่มเทเวลาและความรู้ในการพัฒนา Electronic Nose ให้มีความสามารถที่เทียบเท่าจมูกมนุษย์ โดยการใช้เซนเซอร์ก๊าซที่สามารถตรวจจับกลิ่นได้หลากหลายประเภท และระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ช่วยในการวิเคราะห์และจำแนกกลิ่นเหล่านั้น ทำให้การตรวจสอบคุณภาพของวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์อาหารในแต่ละขั้นตอนเป็นไปอย่างแม่นยำและรวดเร็ว ซึ่งจากวันนั้นเทคโนโลยีดังกล่าวก็ได้ส่งผลสำหรับกลุ่มธุรกิจได้ตัวอย่างเช่น

  • การตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบ
    Electronic Nose ถูกนำมาใช้ในการตรวจสอบคุณภาพของวัตถุดิบ เช่น ข้าวหอมมะลิ กาแฟ ถั่วเหลือง และอาหารทะเลแช่แข็ง ทำให้สามารถตรวจจับและจำแนกกลิ่นที่อาจบ่งบอกถึงความผิดปกติหรือการปนเปื้อนได้ ตัวอย่างเช่น การตรวจสอบกลิ่นของข้าวหอมมะลิที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ เพื่อให้แน่ใจว่าข้าวที่ผลิตและส่งออกมีคุณภาพสูงสุดและตรงตามมาตรฐานที่กำหนด
  • การควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์
    ในกระบวนการผลิตอาหาร เทคโนโลยี Electronic Nose ถูกใช้ในการควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในแต่ละขั้นตอน เช่น การตรวจสอบกลิ่นของเนื้อสัตว์แปรรูป อาหารกระป๋อง และเครื่องดื่ม ทำให้สามารถระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการผลิตได้ทันท่วงที ตัวอย่างเช่น การตรวจสอบกลิ่นของเนื้อสัตว์แปรรูปเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการปนเปื้อนหรือการเปลี่ยนแปลงของกลิ่นที่อาจส่งผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์
  • การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่
    Electronic Nose ยังมีบทบาทสำคัญในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยการวิเคราะห์และออกแบบกลิ่นและรสชาติที่ต้องการ เช่น การพัฒนาสูตรเครื่องดื่มใหม่ หรือการสร้างสรรค์รสชาติอาหารที่แปลกใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ตัวอย่างเช่น การพัฒนาสูตรเครื่องดื่มที่มีรสชาติและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อดึงดูดผู้บริโภคและสร้างความแตกต่างในตลาด

อนาคตของ Electronic Nose และการขยายตลาดด้านอาหาร

อนาคตของ Electronic Nose และการขยายตลาดด้านอาหาร

ในปีที่ผ่านมา บริษัท MUI Robotics ได้เคยร่วมมือกับผู้ผลิตข้าวหอมมะลิในประเทศไทยเพื่อใช้ Electronic Nose ในการตรวจสอบคุณภาพของข้าว โดยการตรวจสอบกลิ่นของข้าวในกระบวนการผลิต ทำให้สามารถระบุและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ทันท่วงที และมั่นใจได้ว่าข้าวที่ส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศมีคุณภาพสูงสุด การใช้งาน Electronic Nose ในกรณีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ แต่ยังช่วยลดต้นทุนในการใช้แรงงานมนุษย์และลดความเสี่ยงจากความผิดพลาดในการตรวจสอบกลิ่นได้อย่างน่าพึงพอใจ

นอกจากนี้ หลังจากวิกฤต COVID-19 ที่ผ่านมาการสูญเสียการรับรู้กลิ่นของผู้ป่วย COVID-19 ทำให้ความแม่นยำในการตรวจสอบกลิ่นโดยมนุษย์ลดลงทำให้ Electronic Nose จึงกลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์อาหาร โดยไม่มีผลกระทบจากการสูญเสียการรับรู้กลิ่นของพนักงาน อีกทั้งยังมีความแม่นยำที่สามารถวัดค่าได้ นี่จึงเป็นอีกก้าวที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าเรื่องนี้มีความสำคัญแค่ไหนในอนาคต

สังเกตได้เลยว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ได้เริ่มเข้ามามีบทบาท ไม่ใช่แค่ในอุตสาหกรรมรูปแบบหนึ่งเท่านั้นแต่มีการขยายวงกว้างได้อย่างน่าสนใจ แต่สำหรับธุรกิจขนาดเล็กก็นับว่าเริ่มจะเป็นที่คึกคักเพราะไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์อาหาร แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ SMEs ไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ การที่อุตสาหกรรมอาหารไทยสามารถนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในการผลิตและการตรวจสอบคุณภาพ จะเป็นการยกระดับมาตรฐานและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ

ดังนั้น การนำ Electronic Nose มาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารไทยไม่เพียงแต่เป็นการปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่ยังเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ที่จะทำให้อุตสาหกรรมอาหารไทยเติบโตและก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

บทสรุป

การนำเทคโนโลยี Electronic Nose เข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารจะเป็นการพลิกโฉมกระบวนการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพในทุกๆ ด้าน ไม่เพียงแต่เพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับและวิเคราะห์กลิ่น แต่ยังช่วยลดต้นทุนและเวลาในการดำเนินงาน นอกจากนี้ยังสามารถลดความเสี่ยงจากการใช้แรงงานมนุษย์ในการตรวจสอบกลิ่นที่อาจเกิดข้อผิดพลาดได้

ทำให้การใช้ Electronic Nose ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณภาพสูงและตรงตามความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถตรวจจับและจำแนกกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของวัตถุดิบรวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารได้อย่างละเอียดแม่นยำ เป็นประโยชน์อย่างมากในการควบคุมคุณภาพและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ใหม่

ทั้งยังช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ว่าผลิตภัณฑ์อาหารที่ผ่านการตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีนี้มีคุณภาพสูงและปลอดภัย นี่จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะนำพาอุตสาหกรรมนี้ไปสู่ระดับใหม่ ที่ส่งเสริมการเติบโตและพัฒนาของอุตสาหกรรมอาหารไทยได้ในระยะยาว